1. เลือกความเรียบง่ายมากกว่าความซับซ้อน
2. ฝึกความอดทน (รอจังหวะที่ดี อย่ารีบ)
3. มีสติและควบคุมอารมณ์ได้
4. คิดอย่างอิสระ
5. ไม่สนใจ ไม่วอกแวกจากภาพรวมภายนอก
6. ไม่ลงทุนด้วยสัญชาตญาณ (คิดเอง เดาเองหรือเสี่ยงเล่นดู
)
7. ฝึกการอยู่นิ่งๆ ไม่ซื้อขายมากเกินไป
8. เป็นนักฉวยโอกาสเมื่อตลาดมีสภาวะสดใส ชัดเจน
9. อย่าตีบอลทุกลูกที่ขว้างมา
(อย่าเข้าๆออกๆบ่อยเกินไป)
10. จงอยู่ในขอบเขตความรู้ของคุณ
(มีความรู้แบบไหนก็ใช้วิธีเล่นแบบที่คุณรู้ )
11. จงตื่นกลัวเมื่อคนอื่นกำลังโลภและจงโลภเมื่อคนอื่นกำลังตื่นกลัว
12. อ่านและอ่านให้มากแล้วคิดให้ดี
13.
อย่าทำพลาดแล้วเรียนรู้จากความผิดความของผู้อื่น
14. ก้าวสู้การเป็นนักลงทุนผู้รอบรู้และ
ฝึกที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
กฎข้อใหญ่ๆมักจะพูดเสมอให้คิดเสมอๆการเข้าครั้งนี้จะไม่ขาดทุน
1.
อย่าพยายามเทรดในช่วงที่เราไม่รู้
(ช่วงที่อ่านกราฟไม่ออก มองไม่ชัดเจน กราฟไม่สวย ไม่แน่ใจ...)
2.
อย่ารีบจนเกินไปและยื้อการขาดทุน
(
อย่าปล่อยให้ความโลภยืนเหนือเหตุผล และขาดทุนเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็กลับมา)
3.
อย่าต่อต้าน แนวโน้มหลัก
(
กราฟมักจะมีแนวโน้มเสมอๆ ระยะสั้นๆอาจจะsideway แต่ระยะเวลามากขึ้นยังคงเป็นขาขึ้นอยู่..)
4.
จงเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
(
ทำอย่างไรเพื่อให้ขาดทุนน้อยลง ทำอย่างไรที่จะหาวิธีในการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้
เรียนรู้ความผิดพลาด ตลาดสอนอะไรเรา ตัวไหนที่มักจะทำกำไรให้เราเสมอๆ หาเหตุและผล
เพราะอะไร)
5.
ทำการบ้านก่อนเทรดเสมอๆ จดและบันทึกลงสมุด
( มองกราฟ วิเคราะห์กราฟจาก --->1h--->15m--->5m ความสัมพันธ์เป็นยังไง
เริ่มลงทุนควรเริ่มที่เท่าไหรก่อน ตามความเหมาะสมของ ลักษณะกราฟว่ามั่นใจแค่ไหน
หลายๆ คนมักจะมองข้ามการจดบันทึก จดตัวที่เราสนใจจุดไหนน่าสนใจ
ถ้าเข้าแล้วจุดไหนควรออกยอมตัดขาดทุน แนวรับแถวไหน แนวต้านแถวไหน
มาถึงตรงนี้ถึงเข้าเลื่อนลงไปตัดขาดทุนทันที
หลายๆคนมักมองข้ามแบบแผนนี้เสมอๆส่วนใหญ่มักเปิดกราฟแล้วเทรดเลย เป็น
วิธีคิดที่หยาบเกินไป ยังไม่ละเอียดพอ)
6. มีสมาธิในช่วงนั่นๆ
(เงินทำเงินควรตั้งใจและมีสมาธิ)
"ถ้าคุณไม่เข้าใจ
มองกราฟไม่ออก อย่าเข้าซื้อ-ขายเด็ดขาด"
1. มองหาแนวโน้ม
ใน กราฟมีแค่ 3 แบบ ขาขึ้น ขาลง ด้านข้าง ใช้กราฟวิเคราะห์ราคาจากระยะยาวเมื่อมองภาพใหญ่จะเห็นว่าตลาดเป็นรูปแบบไหน
ทำอะไรอยู่และจะมองภาพรวมตลาดได้ง่ายขึ้น
เมื่อมองภาพระยะยาว(กราฟวัน สัปดาห์
เดือน)แล้วจึงค่อยมามองภาพระยะสั้น(ระหว่างวัน)
การไปดูกราฟระยะสั้นๆก่อนมักจะทำให้มองผิดพลาดได้ง่ายกว่า(เกิดการหลอก
ของกราฟ)เพราะแนวโน้มกราฟมักจะเดินทางตามกราฟระยะยาวเสมอๆ
ดังนั่นถ้าคุณเป็นนักเทรดระยะสั้น วันต่อวัน นักเก็งกำไร คุณควร ซื้อ-ขาย
ตามแนวโน้มระยะกลาง และระยะยาว
2. เดินทางไปกับแนวโน้มนั่นๆที่เกิดขึ้น
พิจารณาแนวโน้มที่เกิดขึ้นว่าเป็นแบบไหนเมื่อรู้แล้วจึงเดินตามแนวโน้มทางนั้น
แนวโน้มของตลาดจะมีทั้ง ระยะสั้น ระยะกลาง
ระยะยาว คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณเป็นนักลงทุนประเภทไหน สั้น กลาง ยาว
แล้วจึงเลือกกราฟให้เหมาะสม
เมื่อถึงเวลาเทรดให้เทรดไปตามทิศทางแนวโน้มตามระยะเวลาที่คุณเลือก
''สำคัญ'' ซื้อเมื่อตอนที่ราคาลดต่ำลงมา(ลงมาปรับฐาน
พักตัว ทำแนวรับ)ในแนวโน้มของเทรนขาขึ้น
ขายเมื่อตอนที่ราคาดีดตัวขึ้นไป(ขึ้นมาปรับฐาน พักตัว
ทำแนวต้าน)ในแนวโน้มของเทรนขาลง
ถ้าคุณเป็นนักลงทุน ซื้อ- ขายภายในวันเดียว
ใช้กราฟวันและระหว่างวัน
อย่างไรก็ตามจะเลือกเทรดแบบไหน เราต้องดูกราฟที่ระยะยาวกว่าเพื่อดูแนวโน้มก่อน
แล้วจึงใช้กราฟระยะเวลาที่เราต้องการเทรดสำหรับการซื้อ-ขาย
3. หาจุดต่ำสุดของราคาและจุดสูงสุดของราคา
รู้จุดต่ำสุด คือ แนวรับ จุดสูงสุด คือ แนวต้าน
หาให้เจอ(แล้วขีดไว้กันลืม)หาแนวรับและแนวต้านตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ ซื้อที่แนวรับ(ใกล้ๆแนวรับ)
ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ ขายที่แนวต้าน(ใกล้ๆแนวต้าน)
ในช่วงแนวโน้มขาลงเมื่อ ราคาทำยอดสูงใหม่กว่าจากนั้นจะกลับมาเป็น(แนวรับ)
เมื่อราคาวกกลับลงมาหรือเรียกว่า สูงเก่ากลายเป็นจุดต่ำใหม่
(ของแนวโน้มขาขึ้น)เมื่อราคาทะลุจุดต่ำสุดจากนั้นจะดีดกลับมาเป็น(แนวต้าน)
เมื่อราคาดีดตัวขึ้นไป เรียกว่า ต่ำเก่ากลายเป็นจุดสูงใหญ่
4. ลากเส้น(แนวโน้ม)
ลากเส้นแนวโน้ม
เส้นแนวโน้มเป็นการมองและลากง่ายๆแต่ได้ผล สิ่งที่ต้องทำก็แค่ลากเส้นแนวโน้ม
ขาขึ้นของการลากก็จะมีการพักตัวในเส้นที่ลากแล้วขึ้นต่อ
ขาลงของการลากก็จะมีการพักตัวในเส้นที่ลากแล้วลงต่อ
จนกว่าจะมีการทะลุเส้นแนวโน้มนั่นๆได้มักจะเกิดสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มนั่นๆ
เส้น
ที่ดีควรมีการแตะของราคาอย่างน้อยถึงสามครั้ง(ไม่ทะลุหลุดเส้น)
เส้นยิ่งยาวยิ่งดีบอกแนวโน้มนั่นแข็งแรง(ลากแล้วหลุดเร็วแสดงเส้นสั้น)
และยิ่งถูกทดสอบโดยการแตะที่เส้นมากเท่าไหร่(เหมือนสะสมแรง)ยิ่งเป็นนัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
ฝึกลากบ่อยๆแล้วจะสามารถไปประยุกต์เองเป็นครับ
สามารถลากจากไหนก็ได้ชอบแบบที่ราคาเปิดปิด หรือ
ชอบลากแบบใส้เทียน ใช้แบบไหนก็ได้ครับฝึกดูไปเรื่อยๆครับ แต่เมื่อหลุดแล้วไม่เป็นไปตามทิศทางที่เรามองมีทางเดียวเลยครับ
ยอมตัดขาดทุนแล้วเริ่มครั้งใหม่ ไม่มีระบบไหนถูกทุกครั้งครับ
ทุกระบบถูกเลือกมาให้ถูกมากกว่าผิด
แต่ระบบทุกระบบก็ต้องการทำตามอย่างมีวินัยสูงด้วยเช่นกัน
การมีวินัยจะช่วยให้การเสียหายขาดทุนน้อย แต่ถูกทางจะกำไรมากเสมอๆครับไม่เชื่อลองมีวินัยดูครับ....
ข้อสอง ระยะสั้น มีตัวpivot ที่ใช้ดูระยะ
15m ใช้ได้ดีในการเล่นหนึ่งวัน
ส่วนระยะกลาง ระยะยาว ต้องลากมือเพื่อหาเป้าหมายหรือจะดูจาก แนวรับ แนวต้าน
อดีตว่าเคยขึ้น
ลงไปที่จุดไหนและอนาคตมักจะวิ่งที่พักตัวที่ระดับจุดที่อดีตเคยขึ้นมาถึง
ลงมาถึงเช่นกันครับ
ข้อสาม ส่วนใหญ่น่ะครับ
พอมีแนวโน้มขึ้นหมดรอบขึ้นแล้วมักจะเกิดคลอเคลีย(sideway)หรือพักตัวก่อน
เสมอแล้วมีแนวโน้มครั้งต่อไป เปรียบ
เสมือนการวิ่งครับเมื่อเราวิ่งมานานเราเหนื่อยเราก็ต้องพักก่อน
เมื่อพักเราก็หายเหนื่อย(สะสมแีรงนั่นเอง) พอหายเหนื่อยเราจึงวิ่งต่อ
สรุปแล้วเกิดแนวโน้มครบหนึ่งรอบแล้วพักเพื่อสะสมแรงแล้วจึงวิ่งครั้งต่อไป ครับ
ราคาการขึ้นลงของกราฟก็มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตเช่น
เดียวกันครับ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งนั่นครับ ขยันมอง
ขยันสังเกตุและขยันมีวินัยครับ เดี๋ยวก็เก่งครับ
ฝึกให้ทานจนเป็นนิสัย
ความโลภจากกำไรและควมโลภของการไม่กล้า stop loss จะหายไปเอง
สุดท้ายนี้ผมขอให้ประสบความสำเร็จนะครับโชคดีครับ